จระเข้ เพอร์เฟ็ค ชิลด์

คุณสมบัติเด่น

• สามารถแทรกซึมลึกในผิวคอนกรีตจนเป็นส่วนหนึ่งของคอนกรีตทำให้มีความคงทนสามารถกันน้ำซึมแบบถาวร

• พื้นผิวสามารถกันน้ำได้ทั้ง 2 ด้าน (ด้านที่ไม่สัมผัสน้ำและด้านที่สัมผัสน้ำโดยตรง)

• ป้องกันและทนการกัดกร่อนจากสารเคมี น้ำใต้ดิน น้ำทะเล ซัลเฟต (Sulfates) คลอไรด์ (Chlorides) และคาร์บอเนต (Carbonates) ได้ดี

• กันน้ำได้ดี แม้ว่าแรงดันน้ำสูง มากกว่า 16 bar

• ทาทับพื้นผิวที่แตกลายงาที่มีขนาดกว้างไม่เกิน 0.4 มม. ได้โดยไม่จำเป็นต้องซ่อมรอยร้าวก่อน

• ปลอดภัยเมื่อใช้กับภาชนะน้ำดื่ม ไม่ก่อให้เกิดสารพิษ (Non-toxic)

• เสริมคุณสมบัติการต้านทานการสึกกร่อนของคอนกรีต

• แห้งตัวได้ขณะผนังมีความชื้น

• เพิ่มความทนแรงอัดของคอนกรีต

ลักษณะการใช้งาน

เหมาะสำหรับกันซึมพื้น ผนังคอนกรีต ห้องใต้ดิน ห้องน้ำ สระว่ายน้ำ บ่อบำบัดน้ำเสีย พื้นคอนกรีตชั้นล่าง งานคอนกรีตโครงสร้าง

มาตรฐาน

BS 1881

สีของผลิตภัณฑ์

สีเทา

ขนาดบรรจุ:

20 กิโลกรัม/ถัง, 5 กิโลกรัม/กระป๋อง

จระเข้ เพอร์เฟ็ค ชิลด์

เป็นผลิตภัณฑ์ที่ประกอบไปด้วยปูนซีเมนต์ ทรายคัดพิเศษ และสารเคมีที่มีคุณสมบัติเฉพาะเป็นระบบกันซึมในงานคอนกรีตได้ดีทั้งคอนกรีตเก่า และคอนกรีตใหม่ ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับทาบนคอนกรีตใช้งานง่าย เพียงผสมน้ำ แล้วนำส่วนผสมที่ได้ทาหรือสเปรย์ลงบนผิวคอนกรีต สารเคมีที่ผสมอยู่จะทำหน้าที่แทรกซึมลงไปในผิวคอนกรีตและไปก่อตัวเป็นผลึก ทำปฏิกิริยาตกผลึกในเนื้อคอนกรีต ต่อเนื่องลึก 5-50 มม. สามารถป้องกันไม่ให้น้ำซึมผ่านผิวคอนกรีตได้ดีทั้งในสภาวะที่มีแรงดันน้ำสูง (Integral Capillary Concrete Waterproofing System)

การเตรียมพื้นผิว

• ทำความสะอาดพื้นผิวคอนกรีตให้ปราศจากฝุ่น เศษปูน น้ำมัน และสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ

• กรณีผิวหน้าของคอนกรีตที่มีลักษณะมันเงา พื้นขัดมัน หรือมีสิ่งปิดผิวหน้า ต้องมีการขัดเปิดผิวหน้าคอนกรีตให้มีรูพรุน

• หากพื้นผิวมีรอยแตกร้าว ควรซ่อมรอยแตกร้าวก่อน โดยใช้วัสดุซ่อมแซมที่เหมาะสม ในกรณีที่มีรอยเชื่อมต่อที่เกิดจากการก่อสร้าง ควรจะสกัดรอยต่อให้มีความกว้าง และลึกประมาณ 20-30 มม.

• ควรบ่มพื้นผิวให้เปียกชุ่มและปล่อยให้แห้งหมาดๆ

อัตราส่วนผสม

• ทาผนัง (แนวดิ่ง)

  : จระเข้ เพอร์เฟ็ค ชิลด์ 2.5 ส่วน ต่อ น้ำ 1 ส่วน โดยปริมาตร

• ทาพื้น (แนวนอน)

  : จระเข้ เพอร์เฟ็ค ชิลด์ 2 ส่วน ต่อ น้ำ 1 ส่วน โดยปริมาตร

การผสม

• นำจระเข้ เพอร์เฟ็ค ชิลด์ เทลงในน้ำ ผสมตามอัตราส่วนที่กำหนดปั่นด้วยสว่านความเร็วรอบต่ำ ประมาณ 150 รอบ ต่อนาที (150 rpm) ผสมให้เข้ากัน

• หลังจากผสมแล้วควรใช้งานให้หมดภายใน 20 นาที เมื่อส่วนผสมเริ่มแข็งตัว ห้ามเติมน้ำแล้วนำกลับมาใช้งาน ควรทิ้งแล้วผสมใหม่

• ระหว่างการใช้งานควรทำการกวนเป็นระยะ ๆ

การใช้งาน

• ควรใช้แปรงชนิดในสังเคราะห์ (Masonry) ซึ่งเหมาะสำหรับทา จระเข้ เพอร์เฟ็ค ชิลด์

• การทา จระเข้ เพอเฟ็ค ชิลด์ บนพื้น (แนวนอน) ให้ทาเพียงครั้งเดียว

• ในกรณีทาผนัง (แนวดิ่ง) ให้ทา 2 เที่ยว โดยครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ให้เว้นระยะเวลาประมาณ 20 นาที

• หลังจาก จระเข้ เพอร์เฟ็ค ชิลด์ แห้งตัว 24 ชั่วโมง ควรมีการบ่มผิวด้วยน้ำอย่างน้อย 3 วัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์มากยิ่งขึ้นและให้บ่มน้ำ 3 ครั้งต่อวัน เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ แทรกซึมตามรูพรุนของคอนกรีต

อัตราการใช้

• ทาผนัง (แนวดิ่ง) Vertical Concrete or Block Surface 1.4-1.6 กิโลกรัม ต่อ ตารางเมตร ทา 2 เที่ยว

• ทาพื้น (แนวนอน) Horizontal Concrete Surface 1 กิโลกรัม ต่อ ตารางเมตร ทาเที่ยวเดียว

วิธีการซ่อมแซม โดยการเจาะและอุดรูโพรง

• ผลิตภัณฑ์จะทำปฏิกิริยากับความชื้นก่อให้เกิดผลึกถาวร (Crystalline) ปิดกั้นรูพรุนในเนื้อคอนกรีตป้องกันน้ำได้ทุกทิศทาง ระบบจะยิ่งดีเมื่อเวลาผ่านไป เนื่องจากผลึก ดังกล่าวจะแทรกตัวลึกลงไปและมีความหนาแน่นเพิ่มขึ้น เพื่อแก้ปัญหารอยชื้นที่เกิดขึ้นให้เจาะรู นำน้ำที่อยุ่ในโพรงออกให้หมดด้วยการใช้อุปกรณ์ดูด หรือใช้ลมเป่า ใช้ท่อระบายลมหรือเครื่องสูบน้ำ เทส่วนผสมที่ไม่ข้นมากของ จระเข้ เพอร์เฟ็ค ชิลด์ ลงในรูโพรงที่นำน้ำออกหมดแล้ว ค่อย ๆ ใช้ไม้หรือแท่งเหล็กกระทุ้งให้ จระเข้ เพอร์เฟ็ค ชิลด์ ไหลลงไปจนเต็ม ปิดรูโพรงด้วย จระเข้

• โพรเทคกรีต มอร์ต้า เจาะรูขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2-2.5 ซม. ในบริเวณที่มีจุดศูนย์กลางขนาด 15-20 ซม. มุม 40-80 องศา จนถึงสามในสี่ (3/4) ของขนาดกำแพง

ข้อจำกัดการใช้

• ไม่ควรใช้บริเวณพื้นที่แห้ง ควรพรมน้ำให้เปียกชื้นผลิตภัณฑ์จะทำปฏิกิริยากับความชื้น ถ้าต้องการทาสีทับบนพื้นผิวของ จระเข้ เพอร์เฟ็ค ชิลด์ จะต้องล้างพื้นผิวด้วยสารละลายน้ำกับน้ำส้มสายชู หลังจากนั้นให้ทำความสะอาดพื้นผิวด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง

ข้อควรระวัง

• ผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์และสารผสมเพิ่มอื่น ๆ ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยต่าง ๆ เช่น ถุงมือ หน้ากากกันฝุ่นแว่นตา ฯลฯ

• ในกรณีเข้าตาให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง ทันที และรีบปรึกษาแพทย์

• ควรเก็บให้พ้นมือเด็ก

การเก็บรักษา

• ควรเก็บไว้ในที่ร่ม ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก

• อายุของผลิตภัณฑ์ 1 ปีนับจากวันที่ผลิตในสภาพยังไม่เปิดถุงใช้ (ถ้าหากใช้ไม่หมดถุงต้องมัดปากถุงให้แน่นสนิททุกครั้ง)